โรคของสุนัข

 โรคไข้หัดสุนัข 
เป็นโรคฮิตติดอันดับสำหรับโรคสุนัขโรคหนึ่ง โรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัสมักเกิดกับลูกสุนัขที่อายุ น้อย ตั้งแต่ 2-3 เดือน เป็นต้นไปบางครั้งพบว่าเกิดในสุนัขแก่ได้เช่นกัน เป็นแล้วโอกาสหาย สำหรับสุนัขที่ติดเชื้อนี้ค่อนข้างต่ำน้อยตัวนักที่จะหาย ถึงหายก็ไม่ปกติ มักจะแสดงอาการทางประสาท คือ กระตุก หรือชักตลอดชีวิตส่วนใหญ่แล้วตายอย่างค่อนข้างทรมาน
         อาการของโรคนี้มักจะแสดงออกทางระบบทางเดินหายใจก่อน คือ มีขี้มูกไหลย้อยสีเขียว ดูเหมือนปอดบวม มีไข้ เบื่ออาหาร ซึม มีตุ่มหนองขึ้นใต้ท้อง มีขี้ตาสีเขียว ๆ เกรอะกรังตลอดเวลา เมื่ออาการรุนแรงขึ้นจะพบว่ามีอาการทางประสาท คือ ริมฝีปากสั่น กระตุก และจะลามไปที่บริเวณหนังหัว ใบหน้า ขาหลัง อาจจะพบว่าบริเวณฝ่าเท้ากระด้างขึ้น บางรายพบว่ามีท้องร่วงด้วย สุดท้ายของโรคมักจะตาย ยับเป็นภัยใหญ่หลวงชนิดหนึ่งของลูกสุนัข แต่สามารถป้องกันได้โดยการพาลูกสุนัขไปรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หัดตั้งแต่อายุ 2 เดือน เป็นเข็มแรก หลังจากนั้นอีกหนึ่งเข็มที่สองเมื่อผ่านไป1 เดือน เป็นการกระตุ้น และฉีดซ้ำ ๆ ทุกปี ปีละ 1 ครั้ง 
โรคพาร์โวไวรัสหรือลำไส้อักเสบ 
                โรคนี้มีระบาดไปทั่วโลก และแพร่เข้ามสู่ไทยเมื่อไม่กี่ปีมานี้เองนับเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสในสุนัขที่ส ร้างความสูญเสียอย่างมหาศาล การระบาดเดขึ้นได้ง่าย รวดเร็วและรุนแรงทำให้สุนัขตาย ไปเป็นจำนวนมากด้วยอาการท้องเดิน อาเจียน ไม่กินอาหาร ไข้สูงร่างกายสูญเสียน้ำมาก ทำให้สุนัขตายอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะลูกสุนัขอัตราการตายสูงมาก โรคลำไส้อักเสนี้ มัักจะพบในลูกสุนัข อายุตั้งแต่ 2-6 เดือนหลังจากได้รับเชื้อไปแล้ว ประมาณ 5-7 วัน ลูกสุนัขจะไม่กินอาหาร มีไข้สูง ๆ ต่ำๆ แสดงอาการอาเจียนอย่างมาก พร้อมกันนี้ก็เริ่มแสดงอาการท้องร่วงถ่ายออกมาเป็นน้ำเหลวสีโอวัลติน หรือสีแดง เพราะมีเลือดสด ๆ ปนออกมามีกลิ่นเหม็นคาวมาก ไวรัสจะเข้าไปยังกล้ามเนื้อหัวใจ ทำให้ช็อคตายได้อย่างรวดเร็ว อัตราการตายลูกสุนัขสูงมาก ส่วนสุนัขโตแพ้โรคนี้น้อย สุนัขพันธุ์ โดเบอร์แมน เกรท เดนจะแพ้โรคนี้อย่างรุนแรง โดยปกติโรคนี้ไม่มียารักษาโดยตรงเพียงแต่รักษาตามอาการที่พบเท่านั้น ทางที่ดีควรหาทางป้องกันไว้ก่อนโดยการฉีดวัคซีนตั้งแต่อายุได้ 2 เดือน และกระตุ้นอีกครั้งเมื่ออายุ 3 เดือนและหลังจากนั้นฉีดกระตุ้นทุก ๆปี ปีละ 1 ครั้ง
โรคพิษสุนัขบ้า
                  โรคนี้คนที่เลี้ยงสุนัขมักจะคุ้นเคยกันดี สาเหตุเกิดมาจากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ติดต่อได้ทางน้ำลายของสุนัข และแมวที่ป่วยมากัดหรือข่วนทำให้เกิดบาดแผลและเชื้อไวรัสผ่านเข้าไปเจริญเติบโตได้สุนัขที่ป่วยจะมีอาการบ้าอย่างรุนแรง ซึม หงุดหงิดง่าย ดุ อารมณ์ไม่ดี มักจะเห่าหอน กัดวัตถุต่างๆเรื่อยเปื่อย เสียงเห่าหอนผิดปกติเนื่องจากเส้นประสาทบริเวณ
กล่องเสียงถูกทำลายสุดท้ายสุนัก็จะเป็นอัมพาตตายไปเอง
ป้องกันได้โดยการนำสุนัขหรือแมวของท่านไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเสียแต่เนิ่นๆ
พยาธิ
มีพยาธิอยู่ภายในร่างกายของสุนัข4ชนิดซึ่งอาจทำให้สุนัขคุณเป็นโรคได้ เหล่านี้คือ
     -พยาธิตัวกลม
     -พยาธิปากขอ
     -พยาธิเส้นด้าย
     - พยาธิตัวแบน
... สามชนิดแรกสามารถตรวจพบได้จากการทดสอบในห้องแล็ป แต่พยาธิตัวแบนนี้ จะพบอยู่ในอุจจาระ หรือ ขนแถวๆโคนหาง อย่าพยายามกำจัดพยาธิด้วยวิธีใดๆก็ตามด้วยตนเอง โดยไม่ปรึกษาสัตวแพทย์ สุนัข หรือ ลูกสุนัขที่มีสุภาพดีจะไม่ค่อยได้รับผลจากพยาธิ เท่ากับสุนัขที่มีสุขภาพไม่ดีอ่อนแอ หนึ่งในมาตรการป้องกันคือ รักษาความสะอาดตลอดเวลา ทำให้ที่นอนของสุนัขแห้ง เพื่อปราศจากเห็บ หรือไข่อ่อนของพวกพยาธิ
โรคพยาธิหนอนหัวใจในสุนัข

เกิดจากพยาธิที่มีตัวยาวมาก อาศัยอยู่ใน หัวใจท้องล่างขวา ถึงเส้นเลือดใหญ่ไปที่ปอด ติดต่อได้โดยมี ยุง เป็นพาหะนำเอาตัวอ่อนของพยาธิในระยะติดต่อ ปล่อยลงไปที่ตัวสุนัข สุนัขที่ป่วยเป็นโรคนี้มักได้แก่สุนัขที่มีอายุ 3 - 5 ปีขึ้นไปพยาธิชนิดนี้ถ้ามีมากจะทำให้กล้ามเนื้อหัวใจทำงานหนัก และ ขยายตัวสุนัขจะมีความผิดปกติที่หัวใจแสดงอาการไอแห้งๆ ไม่มีแรงนอนซม อาจจะมีอาการท้องมาร ตัวซีด หมดแรงล้มตายไปดื้อๆ
... รักษาได้โดยการป้องกันตั้งแต่อายุ 2 - 3 เดือน เป็นการสกัดกั้นไม่ให้ตัวอ่อนของ มันโตขึ้นทุกวันๆ
หนาวสั่น หลอดลมอักเสบ นิวเมอเนีย
โรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ อาจเกิดกับสุนัขได้ เพราะมันถูกบังคับให้อยู่ภายใต้บรรยากาศ ที่คนสร้างมากกว่า บรรยากาศตามธรรมชาติ ถูกความเย็น หรือ ลมหลังอาบน้ำ นอนใกล้แอร์ หรือ ทางที่พัดลมพัด
โรคนี้ไม่สามารถติดต่อสู่คนได้ การปฏิบัติก็เหมือนกับที่ทำกับเด็กยามเป็นโรคเดียวกัน ให้สุนัขอยู่ในที่ซึ่งอบอุ่น เงียบ และบำรุงรักษามันอย่างดี 

บวมเป็นหนอง
หนองที่คั่งอยู่ในแผลอันเกิดจากการติดเชื้อ หรือระคายเคือง บริเวณที่เป็นแผลฟกช้ำ เจ็บเมื่อสัมผัส ให้ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่น เช็ดตามบริเวณรอบๆแผล หรือหนังที่ฟกช้ำ จะทำให้หนองรวมตัวเป็นตัวหนอง แล้วแตกในที่สุดให้ใช้ยาแอนตี้ไบโอติกเมื่อหนองแตกแล้ว 
ลมหายใจมีกลิ่น

นี่อาจเกิดจากโรค เช่น โรคไตอักเสบเรื้อรัง หรือ ฟันผุ โรคติดต่อจากเชื้อแบคทีเรีย หรือแผลเปื่อยในเหงือก หรือบางทีจากอาหารเสียแต่เพียงอย่างเดียว ก็ทำให้สุนัขมีกลิ่นปากได้ การวินิจฉัยโรค
อย่างถูกต้องมีความสำคัญเพื่อเราจะรู้ว่าเราต้องเยียวยา หรือ จะต้องเปลี่ยนแต่เพียงอาหารอย่างเดียว
หัวลึงค์อักเสบ
พบในสุนัขเพศผู้เมื่อปลายอวัยวะเพศ และ หนังหุ้มอักเสบ มีหนองไหล การระคายเคืองจะทำให้สุนัขรำคาญ แต่ก็บรรเทาให้หายได้ ด้วยครีมแอนตี้ไบโอติก และ การรักษาความสะอาด จะช่วยให้สุนัขหาย จากอาการหัวลึงค์อักเสบได้เร็วขึ้น
โรคเรื้อนในขุมขน

เป็นโรคผิวหนังที่รักษายาก ผิวหนังจะเป็นตุ่มแดงๆ และลามขี้นบนใบหน้า ขาเท้า และหลังสุนัขที่เป็นโรคนี้เมื่อหนักขึ้นจะมีขนร่วง บริเวณเหนือคิ้ว แก้ม หน้าผาก จากนั้นจะเกิดตุ่มแดง และกลายเป็นตุ่มหนองมีเลือดภายใน และกระจายไปทั่วลำตัว รักษาได้โดยให้ยา ฉีดยา บางตัวรักษาดีๆจะหายเป็นปกติ
บางตัวเมื่อหายแล้วก็จะกลับมาเป็นใหม่อีกป้องกันได้โดยให้อาหารกินโดยสมบูรณ์ รักษาความสะอาด บริเวณที่อยู่อาศัยและดูแลให้สุนัขแข็งแรงอยู่เสมอ
โรคที่เกิดจากเห็บ
  • โรคติดเชื้อเออร์ลิเซีย
    ติดต่อโดยเห็บสีน้ำตาลที่กัดดูดเลือดสุนัข สุนัขจะมีไข้สูง เยื่อตาขาว อักเสบ มีขี้ตา มีน้ำมูกมาก มีเลือดออกใต้ผิวหนัง และออกจากจมูกเหมือนเลือดกำเดา ใต้ท้องจะเป็นจุดแดงๆ เต็มไปหมด เบื่ออาหาร รักษาได้โดยการให้ยาหลายตัว
    ซึ่งจะต้องปรึกษาสัตวแพทย์ป้องกันได้โดยกำจัดเห็บสีน้ำตาลให้หมดไป อย่าให้เห็บเกาะผิวหนังโดยเด็ดขาด
  • โรคติดต่อเฮ็บปาโตซูน
    ติดต่อโดยเห็บสีน้ำตาล สุนัขที่ป่วยเป็นโรคนี้จะไม่แสดงอาการอย่างชัดเจน แต่จะมีอาการไข้ ตัวร้อน เบื่ออาหาร น้ำหนักลดลง เจ็บปวดกล้ามเนื้อ และเดินเหินผิดปกติ
    รักษาได้ยากเพราะยังไม่มีตัวยาที่รักษาได้โดยเด็ดขาด แต่สามารถป้องกันได้โดยกำจัดเห็บสีน้ำตาลให้หมดไป
โรคติดเชื้อบาบีเซีย
ติดต่อโดยเห็บสีน้ำตาลเช่นเดียวกัน สุนัขจะมีอาการเซื่อมซึม เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย เป็นไข้ เป็นดีซ่าน สุนัขจะมีน้ำหนักลด ผอมแห้ง และทรุดโทรม รักษาได้โดยฉีดยาฆ่าพยาธิในเม็ดเลือดเข้าไป ป้องกันได้โดยกำจัดเห็บสีน้ำตาลให้หมดไปเช่นเเดียวกัน

ที่มาhttp://members.tripod.com/dog_kingdom/sick.htm

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น